ชนิดของขนแปรงแต่งหน้า ขนม้า (Pony Hair Brushes)

ขนแปรงแต่งหน้า มีมากหมายเลยค่ะ ว่าจะมาจากขนสัตว์อะไร ทั้ง ขนแพะ ขนม้า ขนกระต่าย ขนกระรอก และทำมาจากวัสดุเทียม งั้นขอแบ่งง่ายๆ ว่ามี 2 แบบนะค่ะ เลือกใช้ให้เหมาะสมกับการใช้งาน

1. ขนแปรงที่มาจากธรรมชาติ หรือ ขนสัตว์

ก็ทำมาจากขนของสัตว์ค่ะ จะมีคุณสมบัติมีเนื้อละเอียดเบา แน่น มีความยืดหยุ่นสูง แกนขนแปรงได้รูปทรงและคืนรูปง่าย

ขนแปรงแบบนี้เหมาะกับการใช้งานกับเมคอัพที่เป็นเนื้อแป้ง เช่น แปรงปัดแป้ง แปรงปัดแก้ม แปรงทาตา พวกนี้ควรเลือกที่เป็นขนสัตว์  

โดยขนแปรงธรรมชาติมักมีราคาค่อนข้างสูง ส่วนใหญ่ช่างแต่งหน้ามืออาชีพจะเลือกใช้กันค่ะ เพราะต้องการความละเอียด และเนื้ยบของผลงาน ถ้าเป็นมือใหม่ก็ต้องคำนึงเงินในกระเป๋ าด้วยนะค่ะ

ที่นี้มาดูว่า ขนสัตว์ ที่ว่า มาจากอะไรบ้างค่ะ

ขนชาเบิ้ล (Sable Hair Brushes) เป็น ขนของตัว Sable ค่ะ ขนนี้ไม่ค่อยนิ่มและไม่ค่อยทน  แต่มีการสปริงตัวที่ดี ราคาค่อนข้างแพงแต่น้อยกว่าแ บบ Kolinsky Sable ค่ะ มาดูตัว Sable กัน

จะเหมาะกับนำขนมาทำพวกแปรงที่มีขนาดเล็ก เช่น พวกแปรงทาตา ทาอายไลเนอร์ค่ะ และยังมีแบบที่มีขนสีแดง ทำมาจากตัว Sable ที่มีขนสีแดงค่ะ เรียกว่า Red Sable Hair Brushes

ขนโคลินสกี้ (Kolinsky Sable Hair Brushes) ตัว โคลินสกี้เป็นตัวมิงค์สายพันธุ์หนึ่งค่ะ อยู่แถบทางจีนตอนเหนือ โดยขนที่นำมาทำแปรงจะมาจากส่วนหาง มีความนิ่มและสปริงตัวดี ไม่มีหักงอ บางเบาและเส้นเล็ก แต่จะดูแลรักษาค่อนข้างยาก คุณภาพดีและแน่นอนราคาสูงค่ะ จัดได้ว่าราคาสูงที่สุดค่ะ&a mp;n bsp;จะมีสีออกน้ำตาลค่ะ

ด้วยราคาที่สูง จึงเหมาะกับการนำมาทำพวกแปรงขนาดเล็กค่ะ
ขนกระรอก (Squirrel Hair Brushes)  ขนแปรงนิ่ม บาง เส็นเล็กมากค่ะ  จัดว่าเป็นขนที่นิ่มที่สุด มีความทนทาน จึงเหมาะกับนำมาทำแปรงที่สามารถใช้กับพวกเมคอัพแบบน้ำ หรือครีมได้เป็นอย่างดี และทำความสะอาดง่ายค่ะ แต่ข้อเสียคือ ไม่เด้งค่ะ
ว่าแต่กระรอกที่ว่าเนี่ย ต้องเป็นกระรอกพันธุ์ขนยาวนะค่ะ ไม่ใช่ขนกระรอกแบบบ้านพี่ไทยเน้อ

ด้วยราคาที่ไม่แพงและขนนิ่มมากที่สุด จึงเหมาะกับการนำมาทำแปรงปัดแป้ง แปรงปัดแก้มค่ะ
ขนวีเซิล (Weasel Hair Brushes) ทำมาจากขนของตัววีเซิลค่ะ ลักษณะขนจะคล้ายกับ Kolinsky แต่จะไม่ยาวเท่าค่ะ ราคาแพงเอาการอยู่ จึงเหมาะกับการนำมาทำแปรงขนาดเล็กค่ะ

ขนม้า (Pony Hair Brushes) ทำมาจากขน ม้าแต่เป็นม้าแคระนะค่ะ จะมีการนำขนมาจากหลายส่วนในตัวม้า ทำให้ขนจะมีหลายเกรด หลายราคาค่ะ จะนิ่มน้อยกว่าขนกระรอก แต่จะมีความเด้งมากกว่าค่ะ ราคาจึงถูกกว่าขนกระรอก แต่แพงกว่าขนแพะ

เหมาะกับการนำมาทำแปรงได้หมดค่ะ ทุกแบบ บางครั้งจะนำมาผสมกับขนกระรอก เพื่อลดต้นทุนด้วยค่ะ
ขนแพะ (Goat Hair Brushes) ขนแพะจะมี ความนิ่มระดับปานกลางค่ะ แต่มีความแข็งแรง จะมีหลายเกรดค่ะ ถ้าขนที่ตัดใหม่ๆ ช่วงปลายแรกสุดจะมีความนิ่มที่สุด ราคาแพงสุด แล้วขนส่วนต่อไปจะราคาต่ำลงมาค่ะ ข้อดี คือ ทำความสะอาดง่าย และที่สำคัญ ราคาไม่แพงค่ะ

เหมาะกับการทำแปรงทุกแบบ เพราะราคาไม่แพงค่ะ
ขนวัว (Ox Hair Brushes) ส่วนใหญ่ขนวัวจะนำมาจากตรงส่วนใกล้ๆ กับหูวัวค่ะ เพราะจะเป็นขนอ่อน แต่ถึงจะอ่อนยังไง ขนวัวก็มีความแข็งค่ะ ข้อดีคือ ทนทาน

เหมาะกับการนำมาทำแปรงที่ใช้กับพวกน้ำมัน หรือครีม คุณภาพตามราคาค่ะ ราคาต่ำ
ขนพังพอน (Mongoose Hair Brushes) จะมีสีน้ำตาลเข้มค่ะ คุณภาพกลางๆ เหมาะกับใช้พวกเมคอัพเนื้อครีม หรือน้ำมันค่ะ

ขนแบดเจอร์ (Badger Hair Brushes) ทำมา จากขนของตัว Badger จะมีขนสีเทา ตรงหัวของตัว Badger จะมีสีขาวตัดกับขนสีเทา  ขนแปรงจึงมีสีเทาดำ แปรงไม่หยืดหยุ่นและไม่ค่อยนุ่มค่ะ

จะเหมาะกับการนำมาทำแปรงแบบไม้กวาด Fan Brush ค่ะ เพื่อใช้ปัดเศษแป้ง หรือทำการ Touch-up
ขนหมู (Hog Hair Brushes) จะไม่ใช่แบบน้องหมูบ้านเรานะค่ะ เป็นหมูพันธุ์จากจีน ขนจะหยาบและแข็งกระด้าง ราคาถูก

เหมาะสำหรับนำมาทำแปรงปัดคิ้วค่ะ
ต่อไปมาถึงแปรงชนิดที่สอง คือ
2. ขนแปรงที่เกิดจากการสังเคราะห์ หรือขนแปรงสังเคราะห์ (Synthetic Brushes)
ขนแปรงสังเคราะห์ ส่วนใหญ่ทำมาจากไนลอนและเทคลอน ขนแปรงนุ่ม แต่จะไม่ค่อยคืนรูป เท่าขนแปรงธรรมชาติ (สังเกตได้ง่ายว่า เวลาเราใส่แปรงไว้ในกระเป๋า แล้วแปรงจะเสียรูป งอหัก ไรแบบนี้ แสดงว่าเป็นแปรงสังเคราะห์ค่ะ ) 
จึงเหมาะกับพวกเมคอัพที่มีส่วนผสมของน้ำมัน เช่น ครีมรองพื้น และนิยมไว้ทำแปรงพวกแปรงปัดคิ้ว หรือแปรงเขียนขอบตา เขียนอายไลเนอร์
มีราคาถูกกว่าขนแปรงธรรมชาติ และปัจจุบันสามารถผลิตได้ออกมาคล้ายกับขนแปรงธรรมชาติเลยค่ะ ราคาถูกกว่า ใช้ดีกว่า ถึงแหมว่าคุณภาพจะไม่เท่า ทำให้เป็นที่นิยมมากขึ้นค่ะ
มาสรุปคร่าวๆ กันว่า ตกลงแล้ว ขนแปรงธรรมชาติ กับ ขนแปรงสังเคราะห์ ต่างกันอย่างไรค่ะ
แปรงขนสัตว์ จะทำการเบลนด์สีได้ดีกว่า แปรงขนสังเคราะห์ เพราะว่า ขนสัตว์จะติดพวกเมคอัพได้ดีกว่า ทำให้เวลาแตะลงไปบนเมคอัพ แตะนิดเดียวก้อติดมาที่แปรงค่ะ ไม่เปลือง อิอิ แล้วก้อทำให้กะปริมาณการใช้ได้ดีกว่าแบบขนสังเคราะห์
แปรงขนสังเคราะห์จะเหมาะกับพวกเมคอัพประเภทน้ำมัน หรือครีมค่ะ เช่น แปรงพวกทารองพื้น แปรงทาคอนซีลเลอร์ แปรงทาเฉดดิ้งไฮไลท์แบบเนื้อครีม พู่กันทาปาก แปรงทาบรัชครีม เพราะว่า แปรงแบบนี้จะทำความสะอาดง่ายค่ะ
อย่างที่บอกไปเด่วนี้แปรงสังเคราะห์นิ่มๆ เด้งๆ ดีดีก้อมีนะค่ะ เลือกใช้ได้ค่ะ จะได้ไม่รบกวนงบประมาณครอบครัวมากนักค่ะ จะนิ่มมากน้อยแค่ไหน เราเองที่จะกำหนดค่ะ