Pages

Friday, July 20, 2012

รุ่นนี้ อารเบี้ยน เลือดร้อยครับ

รุ่นนี้ อารเบี้ยน เลือดร้อยครับ แต่ยังเป็นรุ่นลูกที่กมลฟาร์ม ถ้าเป็นรถจิ๊บผมขอเปรียบเป็นรถประเภท M151A1 หรือA2 ขับขี่แล้วเท่ย์ระเบิด
 


 ส่วนรุ่นนี้ เป็นควอเตอร์เลือดร้อยครับ ฟาร์มที่2 ถ้าเปรียบเป็รรถจิ๊บเหมือนตะกูล CJ ต่างๆ แต่งซิ่ง,แต่งลุย ขับขี่แล้วมันส์อย่าบอกใคร...ไปใหนไปกันมันอึดคร๊าบ......ไม่รู้รถหรือม้า คร๊าบ...อิอิอิ....
]
รุ่นนี้ เป็นเป็นเทอโรเบทครับ เป็นลูกม้า ฟาร์มที่3 ถ้าเป็นรถจิ๊บขอเปรียบเหมือนตระกูล จิ๊บแรงเล่อรุ่นต่างๆครับ ขับขี่ปรูดปร๊าด สวยสง่างาม รวดเร็วได้ใจ ตระกูลม้าแข่งคร๊าบ...




ครับพอมาถึงฟาร์มที่ 3 นี้เองครับ ตอนต้นเรื่องที่ผมนำเสนอนี้ไม่เกี่ยวกับเรื่องรถ แต่มาต่อมกิเลสแตกที่ฟาร์มนี้ครับ พอดีถ่ายภาพพวกที่ไปด้วยกันพอมองในกล้อง แห็นมีดวงไฟ 2 ดวงใน เกือบกลางภาพพอดี ในภาพนี้


ผม ม้าแม๊ค หรือลุงแม๊ค ครับ

ก่อนอื่นผมจะขอแนะนำตัวอีกครั้งครับ ผม ม้าแม๊ค หรือลุงแม๊ค ที่เจ้าพยูนชอบเรียกเป็นประจำ ถ้าได้อ่านบันทึกเก่าๆ จะรู้ว่าผมเคยเป็นนักวิ่งมาก่อน (ผมวิ่งเร็วจี๊ดอย่างกับวิ่งหนีสิงโตล่ะครับ) ต่อมาก็มาทำงานรับจ้างพานักท่องเที่ยวชมชายหาด บางทีผมก็ลืมตัวพาลูกค้าวิ่งแข่งเหมือนกันครับ ก็มันเพลินไปหน่อยอ่ะครับ บางทีก็มีพาชิมทรายบนหาดบ้างครับ อยากให้ลูกค้าได้อัธรสแปลกใหม่บ้าง ฮี้..ฮี้ ..

ช่วงหลังๆผมเบื่องานนี้เพราะลูกค้าบางคนเป็นลูกค้าไม่ดี ไม่ให้เกียร์ผมเลย ผมก็อยากจะลาออก แต่ที่นี่ไม่มีกฎหมายคุ้มครองแรงงานม้าครับ อีกอย่างผมไม่มีสิทธิตัดสินใจให้กับชีวิตตัวเอง ผมเลยต้องแบกรับงานนี้ต่อไปด้วยความไม่เต็มใจ พอหมดใจในการทำงานผมก็เริ่มทำงานแย่ลง ผมไม่อยากพาใครไปเที่ยวชายหาดอีกแล้ว ผมเริ่มมีปัญหากับที่ทำงาน เมื่อผมไม่ทำงาน ผมก็ไม่ค่อยได้กิน สภาพร่างกายเริ่มแย่ลง ช่วงนั้นนายอ้วนนำอาหารและยามาส่งที่คอก ทางคอกไม่มีเงินจะให้ก็เลยให้ผมไปกับนายอ้วน

นายอ้วนให้ผมขึ้นรถหกล้อที่ทำขึ้นมาเพื่อขนม้าแข่ง บนรถมีหญ้าสดแขวนไว้ตะกร้อใหญ่เลย ผมหิวมาเลยจดจ่ออยู่แต่กับหญ้านั้น มารู้ตัวอีกทีก็ตอนมีเด็กผู้หญิงตัวอ้วนๆมายื่นคุยกับนายอ้วนที่ท้ายรถ ผมหันมองแว๊ปนึงก่อนที่จะจัดการกับหญ้าต่อไป แล้วผมก็ไม่สนใจอะไรอีก ใครจะทำอะไร พาผมไปไหนผมไม่สนแล้วครับ

ผมยืนอยู่บนรถกับม้าตัวเล็กแก่ๆ อีกตัวนึง นานมาก ผมไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ แต่ก็ทำให้ผมเส้นยึดไปหมด ผมได้ลงมาเดินยืดเส้นยืดสายอยู่พักนึงก่อนเข้าคอก ผมมักจะระวังตัวเสมอ ในที่ใหม่ๆผมจะไม่ลงนอนกับพื้น เพราะผมตัวใหญ่ ลุกยาก ถ้ามีสิงโตวิ่งเข้ามาเดี๋ยวจะลุกไม่ทัน ผมอยู่กลับนายอ้วนหลายอาทิตย์ คอกนายอ้วนอยู่ใกล้กับสนามแข่งม้า ผมได้ยินเค้าเรียกกัน สนามม้าโคราช นายอ้วนจะให้เด็กจูงผมเดินออกกำลังทุกวันครับ คนแถวนั้นบอกนายอ้วนว่าผมเป็นม้าเทศ ตัวใหญ่ดี น่าให้วิ่งแข่งอีก แต่นายอ้วนปฏิเสธ โชคดีสำหรับผม เพราะผมก็ไม่อยากแข่งอีก จะให้ม้าโตแล้วอย่างผมไปวิ่งแข่งกับเด็กๆได้ยังไง ไม่เคารพผู้ใหญ่กันบ้างเลย นายอ้วนบำรุงผมทั้งอาหารครบสามมื้อ หญ้าสด และวิตามินบำรุง อยู่กับนายอ้วนไม่นาน ผมก็ได้ยืนรถยาวอีกครั้ง เค้าว่ากันว่าผมยืนรถกลับลงใต้อีก ผมไม่รู้ว่าจะไปไหน แต่คงใกล้ๆกับที่ทำงานเก่าของผม ยืนรถคราวนี้ผมมีเพื่อนมาด้วย เธอชื่อสโนว์ไวท์ เป็นสาวกลางดง คือเธอเกิดและโตที่ ตำบล กลางดง ครับ เธอเป็นม้าตัวเล็ก สูงแค่ครึ่งเดียวของผม ชาวบ้านเรียกเธอว่าม้าไทย เรายืนรถกันมาตั้งแต่เย็น ข้ามคืน จนถึงกลางวันของอีกวัน กว่าจะมาถึงคอกที่ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช



สโนว์ไวท์ สาวกลางดงครับ

วันที่พวกเราเดินทางมาถึง ด้านหลังเป็นรถขนม้าแข่งครับ


คอกนี้ดูยังไม่เสร็จที ตอนที่พวกเรามาถึง แต่เราไม่สนใจมากเท่าไหร่ แค่ที่นี่มีน้ำ มีอาหาร มีพื้นที่กว้างพอให้เราได้วิ่งเล่นยืดเส้นยืดสายบ้าง เราก็มีความสุขแล้ว ที่นี่อากาศดีครับ มีแสงแดด มีลมโชยระเรื่อๆ ผมได้เห็นเจ้าเด็กผู้หญิงอ้วนๆนั้นอีกครั้ง เข้ามาทักทาย คุยเล่นกับผม แต่ผมไม่ค่อยสนใจอะไรมาก ผมสนแต่อาหารอย่างเดียวครับ ก็ผมยังผอมอยู่เลย รูปร่างยังดูไม่หล่อ ผมต้องรีบปั๊มเนื้อหนังครับ

นายอ้วนมาส่งผม และพักเส่นอยู่พักใหญ่ ก่อนที่จะนั่งรถกลับโคราชกับรถม้าที่มาส่งผมกับสโนว์ไวท์ ช่วงแรกๆพวกเรายังไม่คุ้นกับบ้านใหม่ครับ ผมไม่รู้จักใครเลย ผมจะตื่นตัว ระแวดระวังเป็นพิเศษ เผื่อว่ามีเสือสิงค์โผล่มาแถวๆนี้จะได้หนีทันครับ ถึงแม้ว่าผมกับสโนว์ไวท์จะไม่คุ้นกัน แต่ก็ยังดีกว่าไม่มีเพื่อนเลย พวกเราเป็นสัตว์สังคมครับ ชอบออกสังคม พบปะเพื่อนฝูง อยู่กันยิ่งเยอะ ยิ่งสบายใจ ถึงจะมีตีกันบ้างตามประสาครับ

ผมไม่ชอบสโนว์ไวท์อยู่อย่างเดียวที่เธอชอบเข้ามากินหญ้าในเข่งเดียวกับผม ผมไม่ชอบที่เธอทำอย่างนี้ ตอนแรกๆผมจะไล่ไปประจำ แต่ตอนหลังๆเธอก็ไม่ยอมหนี แต่กลับมาไล่ผม ยึดเข่งหญ้าของผมไป... คือผมก็ไม่ได้กลัวเธอ แต่เกรงใจ เห็นเป็นผู้หญิง ผมก็ยอมเสียสละให้

โอ๊ะ...ผมต้องไปกินข้าวเย็นแล้ว วันหลังผมจะกลับมาเล่าต่อ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านครับ...
แม๊ค

ดูตัว(ม้า)นครนายก

แฮ่ๆ หายไปนานเลยทีเดียวเชียว พอดียุ่งๆเรื่องม้าอยู่เลยไม่ได้เข้ามาเล่นเลย ก็อย่างที่บอกไว้เอนทรี่ก่อนว่าจะเอารูปม้ามาลงให้ดู แต่ว่าๆๆๆ จนถึงบัดนี้ยังหาม้าคู่ใจไม่ได้เลยค่า
สืบเนื่องจากคราวที่แล้วที่บอกว่า กำลังรอลุ้นผล ( ยังกะลุ้นผลบอลเลยแหะ ฮา )ว่าพ่อจะคิดยังไงเรื่องไปดูตัว(ม้า) อาทิตย์ที่แล้ว ก็ผลออกมาว่า เรากับพ่อก็ไปดูกันวันอาทิตย์โน้น ไปไกลถึงนครนายกแน่ะ ม้าสวยมากค่ะ แต่ว่าพอลองขี่แล้วค่อนข้างยาก เนื่องจากม้าเป็นคนละประเภทที่เราเคยขี่ ค่อนข้างจะต้องใช้ขาเยอะมากๆ ขี่ได้ครึ่งชม. รู้สึกเหมือนขี่มา 2 ชม. อิอิ แต่พอเจ้าของเขาขึ้นขี่เนี่ย มันวิ่งสวยแล้วก็สง่าจริงๆเค่อะ ใจจริงก็อยากได้ตัวนี้นะ แต่ติดว่าราคา+อายุมันมากไปหน่อย กว่าเราจะเรียนรู้ที่จะขี่มันได้ มันก็คงจะแก่หง่อมพอดีเลย 555+
พอ ดีว่าเมื่อวันอาทิตย์ที่แล้วลืมเอากล้องไปซะงั้น ที่ถ่ายมาได้ก็มีแต่อยู่ในกล้องมือถือซึ่งเป็นภาพเคลื่อนไหว และมันก็อัพลงบล๊อคไม่พอซะงั้นอ่ะ ก็เลยเอาภาพจากเวบบอร์ดของคอกม้าที่นั่นมาลงให้ชมกันแทนก่อนละกันน้า แหะๆ อ้อ คอกเขามีชื่อว่า Equestrian Paradice จ้า
 
อันนี้เป็นภาพสนามขี่ม้าจ้ะ ในรูปคงดูเล็ก แต่ของจริงใหญ่มากๆเลย
 
ส่วนนี่คือ สนามหญ้าปล่อยม้า กว้างและก็เขียวแบบนี้ น่าไปเกิดเป็นม้าจริงๆ
ส่วน ที่หายหน้าหายตาไปอีกอาทิตย์ก็เพราะกำลังยุ่งเรื่องติดต่อสถานที่ไปดูม้าที่ อื่นอ่ะ เพิ่งไปมาเมื่อวานนี้ ยังเหนื่อยไม่หายเลย ไม่ใช่เพราะขี่ม้าหรอกฮ่า แต่นั่งรถจนเหนื่อยมากกว่า ไปดูม้าคือไปดูจริงๆ ไม่ได้ลองขี่เลย แอบเศร้า คือ ม้าที่ไปดูมามีหลายฟาร์มมาก แต่ไม่เข้าตาเลยสักตัว เพราะ 1 คือ มันตัวเล็กไป และ 2 ก็เพราะว่าแต่ละตัวที่เขาขาย อายุก็ค่อนข้างเยอะแถมค่อนข้างแพงอีกด้วย ถ้าซื้อมาก็คงต้องเสียค่าปรับสภาพม้า+ค่าฝึกอีกบานทีเดียวเชียว
เมื่อวานนี้เตรียมซะดิบดีว่าจะเอากล้องไปด้วย แต่ว่า...... น้องมันไปเข้าค่ายพอดี เลยอดยืมกล้องมันไปใช้ กลายเป็นว่าต้องขอยืมกล้องเพื่อนพ่อถ่ายรูปมา เป็นรูปลูกม้าอาหรับตัวนึง น่าร้ากกกกกมากๆๆๆ แต่...แต่.... ลืมขอยืมกล้องเพื่อนพ่อกลับมาบ้านด้วย..... แล้วช้านจะขอยืมเขาถ่ายทำไมเนี่ยยยย..โซแซด...
เอาเป็นว่า... ดูรูปจากกล้องคนอื่น(ที่เราไปจิ๊กเขามาจากเว็บอีกแล้ว )ไปก่อนนะฮ้า
 
 อันนี้เป็นภาพจากฟาร์มคุณสาธิต แต่เป็นฟาร์มที่เราไม่ได้ไปเพราะที่นี่เพาะแต่ม้าแข่งเท่านั้น แต่แม่ม้ากับลูกม้าน่ารักมากๆเลย เสียดายจริงๆ ( เราไม่ซื้อม้าแข่งจ้า เพราะว่านิสัยมันจะค่อนข้างก้าวร้าวกว่าม้าปกตินิดนึง แถมราคาจะแพงกว่าเยอะด้วย )
 
อัน นี้ภาพฟาร์มพรเทพ หรือรู้จักกันในชื่อ ไร่องุ่นปภัสรา มีผลิตภัณฑ์จากองุ่นขายเยอะแยะเลยทั้งน้ำ พาย แยม และอื่นๆ เป็นหนึ่งในฟาร์มที่ไปดูม้ามาเหมือนกัน แต่ว่าม้าส่วนมากเป็นม้าแข่งหรือไม่ก็ม้าแข่งที่ปลดระวางแล้ว ก็เลยกลับมามือเปล่าตามเคย
มี อยู่ฟาร์มนึงที่ไปดูแอบตกใจมาก เพราะทั้งฟาร์มว่างเปล่า มีแต่ม้าเดินไปเดินมาหากินกันเอง ตอนแรกนึกว่าเป็นฟาร์มร้างเสียอีก เพราะไม่มีคนเลยแถมบ้านช่องก็เปิดประตูทิ้งไว้ว่างเปล่า ให้บรรยากาศหนังผีดีมาก กร๊ากก สักพักก็ได้ยินเสียงสวดมนต์แว่วๆมา ปรากฏว่าแถวนั้นมีงานทำบุญของวัดพอดี พ่อเลยบอกว่าสงสัยคนในฟาร์มจะไปงานกันหมด รออยู่ 20 นาที ไม่มีใครกลับมาเลยต้องไปดูที่อื่นต่อ T_T
ตอน นี้ก็เลยยังไม่ได้ม้าคู่ใจสักที อุตส่าห์อ้อนวอนขอพ่อได้แล้วเชียว แต่เมื่อวานกลับมาถึงบ้านลองเปิดเวบดู ก็เจอคอกม้าน่าสนใจอีกคอกนึงอยู่อยุธยา กับอีกคอกที่เพื่อนพ่อจะไปหาข้อมูมาให้ วันเสาร์นี้เลยว่ากันว่าจะขับรถไปดูม้าต่อ ก็คงจะอดไปงานเวิล์ดคอสตามระเบียบ แต่ว่าเพื่อม้า ศรีทนได้ฮ่า
ถ้า เมื่อไหร่เห็นรูปม้าตัวเดิมๆเป็นร้อยรูปเต็มหน้าเอนทรี่แล้วล่ะก็ สันนิษฐานได้เลยว่า ฮิโตะคงจะได้ม้าส่วนตัวซะทีล่ะ อิอิ ไว้เจอกันเอนทรี่หน้านะฮ้า

อาการป่วยถึงขั้นเสียชีวิตที่พบเจอมากับตัวน่ะครับ

 

      มีพี่ที่เลี้ยงม้าท่านหนึ่งบอกผมว่า สัตว์ที่ตายตั้งแต่อายุยังน้อย เป็นพวกเทพ แต่ทำผิดจึงถูกลงโทษให้มาอยู่บนโลกมนุษย์ พ้นโทษแล้วเขาก็จะรีบกลับไปอยู่เบื้องบน เขาบอกว่าขอให้เราทำใจให้สบาย หากเจ้าสตาร์รู้ ว่าเขาทำให้พ่อแม่ไม่สบายใจ ใจเขาจะเป็นพะวงและไม่ได้ไปดีเหมือนอย่างที่เราตั้งใจให้เขาไป ดังนั้นเราต้องคิดว่า ดีใจกับเขา เจ้าสตาร์ได้ไปอยู่ในภพภูมิที่ดีแล้ว ขอให้เจ้าสตาร์ช่วยดูแลปกปักษ์รักษาม้าตัวอื่นๆในคอก...หากต้องเกิดชาติหน้า ขอให้หนูไปเกิดในภพภูมิที่ดีกว่านี้ ไปสู่สุขคตินะลูก..

…เจ้าสตาร์ไปเป็นม้าเทวดา...ม้าที่ไม่มีวันตาย...



จากประสบการณ์ที่ผมเคยทำฟาร์มม้ากับลุงมาน่ะครับ
(เลี้ยงประมาณ 40 กว่าตัว สายพันธุ์ ไทย /เทอโรเบต/ อเมริกันควอเตอร์  แต่ละตัวรัดับ 15 แฮนขึ้นไปครับ)

อาการป่วยถึงขั้นเสียชีวิตที่พบเจอมากับตัวน่ะครับ
1.โรคเลือดจาง (ติดต่อกันได้น่ะครับอันตรายมาก ม้าจะผอมลงเรื่อยๆจนตายไม่มีวิธีรักษา)
2.ม้าเสียดท้อง(กินหญ้าสด/หัวอาหาร มากเกินไป)
3.ม้าปลดระวางจากม้าแข่ง(โดยมากมักจะไม่รอด ให้หลีกเลี่ยง)
4.กีบแตกติดเชื้อ (ม้านอกจะเป็นง่ายกว่าม้าไทยและม้าลูกครึ่งครับ)

โดยมากม้าจะตายกันมากๆเรื่องเสียดท้องนี่หล่ะมาเร็วไปเร็วไม่ทันข้ามคืนเลยทีเดียว
แต่ถึงอย่างไรอาการเสียดท้องจะรุนแรงทำให้ตายเฉียบพลันแต่มันก็มีวิธีแก้น่ะครับง่ายๆ
เมื่อม้าเสียดท้อง จะมีอาการบ่งบอกให้เราพยายามสังเกตุครับเจอเร็วรอดเยอะเจอช้าถึงขั้นนอนตะแคงแล้ว 50/50 ครับ
เพื่อจะได้ช่วยชีวิตเขาได้ทันเวลา อาการเบื้องต้นเมื่อม้าเสียดท้อง ม้ามักจะนอน หรือยืนนิ่งๆืท้องอาจจะบวมหรือไม่บวมแล้วแต่กรณี
ส่วนมากเกิดจากการกินหญ้าสดและหัวอาหารมากไปครับ ควรเน้นหญ้าแห้ง(แพงโกล่า)ให้มาก๐หน่อยจะดีครับ

เมื่อพบอาการข้างต้นแล้วลองจับดูที่ท้องจะรู้สึกได้ทันทีจะมีเสียงแก๊ซ เอาง่ายๆมีเสียงเหมือนคนท้องอืดแหละน่ะ
เมื่อ ตรวจพบแล้วให้พยายามทำใ้ห้ม้าลุกยืนและเริ่มจูงเดินและวิ่งตีวงไปเรื่อยๆ พยายามตีวงให้มากๆครับจนกว่าม้าจะถ่ายออกมามันจะถ่ายชนิดที่ว่าทะลักเลยก็ ว่าได้ครับ(มูลที่ถ่ายออกมาจะไม่เป็นก้อนจะเละๆมีกลิ่นแรงมากๆ) พยายามให้มันวิ่งตีวงไปเรื่อยๆ แค่นั้นมันจะรอดครับวิธีง่ายๆจะได้ไม่เสียม้าสุดที่รักไปต่อหน้าต่อตา

ผม เข้าใจความรู้สึกดีเลยทีเดียวกว่าจะรู้กว่าจะเป็น ม้าดีดีจากไปหลายตัวครับด้วยความรักความเอาใจใส่จนเกินพอดีให้กินนั่นให้กิน นี่อะไรที่ว่าดีให้หมด และนั่นแหละคือที่มาของความสูญเสียครับ ขอให้พี่โชคดีน่ะครับวิธีนี้ผมทดลองมาด้วยตัวเองเเล้วแต่หากรู้แล้วหรือมี ข้อมูลอื่นที่ดีกว่านี้ต้องขออภัยน่ะครับพี่เถียว  ด้วยความปราถนาดีจากน้องพี (นายพรานกลับใจจากชมรมอนุรักษ์ไก่ป่าไทยครับ)

ม้า..สัตว์ใหญ่ชนิดแรกในชีวิต



หลัง จากที่ผมเริ่มเข้าสู่แวดวงคนรักม้า ทำให้ได้มารู้จักม้าตัวหนึ่งนามว่าซิลเวอร์ซัน (silver sun) ผมเฝ้าติดตามพัฒนาการของม้าตัวนี้ประหนึ่งคนที่ติดละครหลังข่าว อยากรู้ว่าเขาเป็นอย่างไร สบายดีหรือเจ็บไข้ตรงไหนบ้าง และจะคอยลุ้นเอาใจช่วยประหนึ่งว่าเป็นม้าของตัวเอง รักมากแต่ไม่เคยเอ่ยปากขอซื้อ เพราะเห็นว่าเจ้าของเขาก็รักม้าตัวนี้ไม่น้อย มีครั้งนึงเจ้าของประกาศขายด้วยความจำเป็น ผมเสนอขอซื้อไป แต่ก็ต้องผิดหวังเมื่อเจ้าของได้ตกลงขายให้กับสัตว์แพทย์ท่านหนึ่งไปแล้ว โดยที่ผมไม่มีโอกาสได้เจรจากับเจ้าของเลยแม้แต่คำเดียว นึกน้อยใจอยู่ไม่น้อย แต่ทำได้เพียงปลอบใจตัวเองว่าถ้าไม่ใช่ของเรา จะทำอย่างไรมันก็ไม่ใช่ของเราครับ
 


ระหว่าง นั้นผมได้ทยอยซื้อม้าลูกผสมเพศเมีย เข้ามาเลี้ยงรวมแล้วสี่ตัว เป็นม้าแม่ลูกสองคู่ สีน้ำตาลแดงแข้งดำ หากจะนำแม่ม้าที่มีอยู่ไปจ้างพ่อม้าพันธุ์ดีๆเพื่อผสมพันธุ์ ต้องมีค่าผสมประมาณ 20000 บ.ต่อตัว ยังไม่รวมค่าขนม้าไปครั้งละ 5000 บ. ค่าครวจโรค 500 บ. ค่าเลี้ยงดูรายวันระหว่างที่รอแม่ม้าฮีทหรือช่วงที่ดูว่าตั้งท้องจริงหรือ ไม่ก่อนจะรับกลับ วันละ 200 บ.โดยประมาณ หากตั้งท้องแล้วก็ยังต้องเสียค่ารถเพื่อขนม้ากลับอีก 5000 บ. รวมแล้วต้องใช้งบประมาณขั้นต่ำไปไม่น้อย จึงเห็นควรว่าต้องหาพ่อม้าใว้เองสักตัว
 
 


โดย ส่วนตัวผมเป็นคนชอบม้าสีขาวมากหวังในใจว่าอยากได้ม้าสีขาวที่สูงใหญ่สักตัว ฝันไกลไปถึงม้าอราเบี้ยนสีขาว แต่การตามหาแค่ม้าสีขาวนั้นก็หาได้ยากมากแล้ว คิดว่าถ้าวันหนึ่งโชคดีหาเจอเข้าจริงๆก็คงจะสู้ราคาค่าตัวไม่ไหวแน่นอน เลยตั้งเป้าหมายให้ต่ำลงมาอีกหน่อยว่าสีอะไรก็ได้ยกเว้นสีน้ำตาลแดงแข้งดำ และสีเม็ดมะขาม เพราะผมมีอยู่แล้วตั้งสี่ตัว
 
 


ตาม ที่ได้รับรู้มา ว่า Silver Sun เป็นม้าสายเลือดของ LA MARSS รามาส(ปู่ของsilver sun) เป็มม้าขาวที่ประมูลมาจากประเทศอังกฤษในราคา5000000 บ. มีลูก 4 ตัว เป็นสีขาวทั้งหมดหนึ่งในนั้นก็คือ SILVER SPHINX ซิลเวอร์ สฟริงค์(พ่อของsilver sun) เป็นม้าสายเดียวที่ให้เปอร์เซ็นต์ลูกขาวมากที่สุด ถ้าเทียบกับม้า 10 ตัวลูกจะขาว 8-9 ตัวเลยก็ว่าได้ แต่ถ้าเป็นพ่อม้าขาวสายเลือดอื่นๆนั้นลูก 10 ตัวอาจจะขาวอยู่แค่ 2-3 ตัวที่เหลือก็สีเหมือนแม่บ้าง เหมือนปู่ย่าก็ว่ากันไป  แต่น่าเสียดายที่ม้าที่กล่าวให้ฟังนี้ ได้ล้มหายตายจากกันไปหมดแล้ว จะเหลืออยู่แค่ลูกๆหลานๆที่เห็น3ตัว (ภาพนี้เป็นม้าสายเลือดเดียวกันกับปู่รามาสในต่างประเทศ)
 


ตัว ที่ 1 ชื่อขุนขาวเป็นม้าแข่งปลด ลูกพี่-ลูกน้องของ silver sun (เป็นลูกม้าพ่อเดียวกัน แต่คนละแม่) ตัวจริงสวยมากรับผสมอยู่ครั้งละ 20000 ที่โคราช มีคนที่ร้อยเอ็ด เอาแม่ม้าตัวเองไปผสมสูง 148cm. พันธุ์ควอเตอร์ ถือว่าเป็นม้าที่สวยใช้ได้เลย ปรากฏว่าตอนที่ขุนขาวขึ้นผสมได้ล้มทับแม่ม้าที่นำไปผสม ด้วยเหตุที่ว่าเป็นม้าแข่งปลด ออกมามีความบาดเจ็บที่ขา พอยกขาหน้าขึ้นทิ้งน้ำหนักลงไปที่ขาหลังทั้งหมด ขาที่เจ็บก็รับน้ำหนักไม่ไหว ซึ่งเจ้าของม้าพอทราบเรื่องก็มารับม้ากลับแต่เรื่องยังไม่จบ เพราะอีก 1 อาทิตย์ต่อมาแม่ม้าตายเป็นเรื่องเป็นราวกัน ชื่อเสียงของขุนขาวจึงเงียบหายไปนับแต่นั้นมา 
 
 
 


ตัว ที่ 2 เป็นพี่ของ silver sun ตอนเล็กๆไม่มีลูกม้าตัวไหนสีขาวเลยจะเป็นสีแซมซึ่งผมเองดูว่าสกปรก และเช่นเดียวกันม้าตัวนี้ก็มีชีวิตอยู่ในเส้นทางม้าแข่งแต่ก็ได้ข่าวมาว่า กำลัง จะปลด หรือปลดออกมาแล้วก็ไม่รู้ส่วนเรื่องการผสม คนส่วนมากก็เสียวๆกลัวจะเป็นอย่างขุนขาว เพราะตอนที่ยังไม่ปลดเปิดรับผสมอยู่ มีคนไปผสมกันเยอะมาก พอเจ็บและปลดออกมาก็ไม่ค่อยมีใครกล้าไปผสมแล้ว ปัจจุบันได้ยินคนในวงการม้าพูดถึงม้าตัวนี้ว่าไม่ยอมขึ้นตัวเมีย เพราะตอนเป็นม้าแข่งที่ใช้ยามากเกินไป อาจส่งผลให้ฮอร์โมนเพศของม้าผิดปรกติ ประมาณว่าเป็นแต๋วไปสะงั้น
 
 


ตัว สุดท้ายก็คือ Silver Sun เป็นม้าสีเดียวกับพ่อของเขาตอนเล็กๆ ตามใบทะเบียนของ Silver sphinx เป็นม้าที่ดูแล้วมีอนาคตตั้งแต่เล็กๆ บวกกับเชื้อสายที่เห็นทั้งของพ่อและแม่อีก ก็ยิ่งมั่นใจได้ว่าอนาคต น่าจะขาวแน่นอนแต่ก็คงจะขาวในแบบสายเลือดเขา คือผมแผงคอคงเป็นสีเทาดำ หางจะออกสีเทาหรือบรอนส์เงิน
 
 


ส่วน เรื่องที่ได้ silver sun มานั้นผมขอบอกตามตรงว่าเป็นเรื่องของดวง เพราะต่อมาไม่นานก็ทราบมาว่า Silver Sun ยังไม่ได้ถูกขายไป รู้สึกดีใจที่เขายังอยู่กับเจ้าของเดิม เรายังได้รับรู้เรื่องราวเป็นระยะๆ แปดเดือนต่อมาเจ้าของโทรมาหาว่ายังสนใจ Silver Sun อยู่หรือไม่ เขาจำเป็นต้องขายทั้งที่ไม่อยากขาย เจรจากันหลายวัน หวุดหวิดว่าเจ้าของจะไม่ขายให้ก็หลายหนด้วยเหตุผลต่างๆที่เข้ายกมา ผมก็ท่องอยู่คำเดียวว่า ถ้ามันจะเป็นของเรา ยังงัยก็ต้องเป็นของเราและแล้วในที่สุด Silver Sun ก็ได้มาอยู่ด้วยกัน โดยวันที่ส่งมอบม้าได้เห็นเจ้าของเขา นั่งตากแดดกอดคอม้าตัวนี้ มาในรถพ่วงที่ไม่มีหลังคา จากชัยภูมิมาส่งให้ถึงสวนที่อำเภอท่าหลวง จังหวัดลพบุรี สิ่งที่เขาทำให้ม้านั้นสำหรับผมแล้ว มันคือสิ่งที่ยิ่งใหญ่ ที่คนๆหนึ่งจะทำให้ม้าตัวหนึ่ง บอกได้เลยว่าเขายังคงรักและอาวรม้าตัวนี้มากๆครับ
 


เดิมที silver sun มีชื่อเดิมว่า san ta cross  ตอนอยู่กับเจ้าของคนแรก เป็นลูกม้าแข่งที่เจ้าของไม่ได้นำไปขึ้นทะเบียน ประวัติของลูกม้าตัวนี้ก็อย่างที่เล่ามา คือมีพ่อเป็นม้าขาวสูง175cm. นามว่า silver sphinx ซึ่งเป็นลูกของปู่รามาส เป็นม้าแข่งพันธุ์ Thoroughbred เลือด 100  นำเข้ามาผสมกับแม่ม้าแข่งนำเข้าชื่อ มาเจ็คติกฟ็อกซ์ เป็น TB เลือด100 ทีนี้ทางสายแม่เขาชื่อ สาว กทม. พ่อชื่อ ซานตาโนฮีโร่ เป็นม้าแข่ง TB เลือด 100 จากญี่ปุ่น ส่วนแม่ม้าเป็นม้าแข่งที่เกิดในไทยเท่ากับว่าเป็น TB 80 สรุปว่า Silver sun เป็นลูก TB (100 + 90 = 190 หาร 2) = 95% ซึ่งก็เรียกง่ายๆว่า TB เลือด100 ก็คงจะไม่ผิดครับ จากนั้นเจ้าของคนที่สองได้ซื้อ silver sun มาจากเจ้าของคนแรกตอน อายุประมาณ 1 ขวบ ก่อนที่จะส่งต่อ Silver Sun ให้มาอยู่กับผม ปัจจุบัน Silver Sun จะอายุครบ 3 ขวบในอีกสี่เดือนข้างหน้าครับ
 
 

เพื่อน คนรักม้าด้วยกันกล่าวใว้ว่าถ้าจะซื้อม้า เราต้องซื้อที่อนาคตของเขา คือซื้อตั้งแต่ตอนที่เขายังเล็กๆอยู่ เพราะถ้าหากไปซื้อตอนโตหรือที่เห็นอนาคตเขาแล้ว เราจะซื้อไม่ได้ อาจจะเป็นที่เจ้าของเขาไม่อยากขาย หรือถ้าขายก็คงจะขายแพงมากๆครับ และทั้งหมดนี้ก็ เป็นเรื่องราวหรือเป็นตำนานของม้าขาวตัวนึง นามว่า Silver sun.
 
 
 
 

อารเบียน กับ เทอเรอเบท นิสัยหน้าตาต่างกันอย่างไร







                ประวัติความเป็นมาของม้าโธโรเบรดนี้ นับเป็นความสำเร็จของวิศวะพันธุกรรม โดยฝีมือมนุษย์ แม้ว่าเจ้าม้าเลือดร้อนนี้จะมีประวัติความเป็นมาเพียง 30 ปี แต่มันก็มีทั้งความมั่นคงแข็งแรง และความเร็วปานพาย ซึ่งม้า พันธุ์นี้ทุกตัวจะมีลักษณะเช่นนี้ทั้งสิ้น ม้าโธโรเบรดเกิดมาเพื่อที่จะแข่งขัน เอาชนะ และวิ่งเร็วปานพายุ บรูช สปริงส์ทัน กล่าวไว้ว่า 'มันเกิดมาเพื่อวิ่ง' และม้าโธโรเบรดก็รู้หน้าที่ของมันตั้งแต่เริ่มยืนได้ทีเดียวก็จริงอยู่ที่ว่า ไม่ใช้ม้าโธโรเบรดรุ่นทุกตัวจะชนะการแข่งขัน ทริปเปิ้ลคราวน์เสมอไป แต่ทุกฤดูใบไม้ผลิ เมื่อลูกม้ารุ่นใหม่ถูกปล่อยออกมาวิ่งเล่นในทุ่งหญ้าแล้วอย่างน้อยก็จะมีสักตัวหน่งที่จะเฝ้าแต่วิ่งกระโดดไปมา ขณะที่แม่ม้ายืนเล็มหญ้าอยู่ เมื่อลูกม้าตัวอื่นพยายามจะเข้าร่วมเล่นกับมัน เจ้าลูกม้านักวิ่งก็จะสลัดความงุ่มง่ามของมันทิ้งไป และจะไม่ยอมให้ตัวอื่นไล่ทันมันเป็นอันขาด ชัยชนะในครั้งนี้ยังไม่มีรางวัล แต่ก็เป็นที่รู้ ๆ กันว่ามันจะต้องรักษาความเป็นหนึ่งของมันไว้ เจ้าลูกม้าตัวนี้รู้ดีตั้งแต่ยังเล็กว่า มันยอมตายเสียดีกว่าที่จะแพ้ เช่นเดียวกับมเาแข่งโธโรเบรดรุ่นเดอะที่ประสบความสำเร็จก่อนหน้ามันมาแล้ว
ต้นตระกูลของม้าโธโรเบรด เรียกได้ว่า เกิดคู่กันมากับการแข่งม้าในอังกฤษนั่นเอง ม้าตระกูลนี้เกิดเมื่อ 300 ปีมาแล้ว ซึ่งในตอนนั้นการแข่งม้าเริ่มเป็นที่เกรียวกราวในประเทศอังฤษพวกนักผสมพันธุ์ม้าในพระบรมราชูปถัมภ์ของพระเจ้าเจมส์ที่ 1 ได้สั่งม้าจากทางตะวันออกเข้ามาคือ พันธุ์ Barbs, Turks และ Arabians ด้วยหวังว่าม้าตะวันออกจะทำให้ลูกม้าพื้นเมืองอังกฤษที่ตัวใหญ่กว่า แข็งแรงกว่า มีความสามารถในการแข่งสูงขึ้น


 ม้าพันธุ์อาหรับเป็นที่ชื่อชอบและนับถือมาก โดยเฉพาะแล่งกำเนิดของสายพันธุ์เป็นที่ยอมรับอันดับหนึ่งว่าเป็นสายพันธุ์ที่ดี เป็นพันธุ์แท้มันเป็นพันธุ์แท้ที่สืบเชื้อสายมาตั้งแต่สมัยโบราณของเผ่าพันธุ์ม้าการขยายการแพร่พันธุ์ เผ่าพันธุ์ม้าอาหรับนี้มีอยู่บนคาบสมุทรอาราเบียนเมื่อ 2000 ปีก่อนยุคสมัยคริสเตียน นี่คือการแสองให้เห็นจาก

สิ่งที่อยู่จริง ที่มีหลักฐานปรากฏ ซึ่งเกี่ยวข้องกับม้าทะเลทราย สายเลือดม้าพันธุ์อาหรับมีอยู่ทุกหนทุกแห่งในโลก โดยชาวมุสลิมเป็นผู้นำเข้าครั้งแรก โดยจากการทำนายของชาวมุสลิมกว่า 7 ศตวรรษ ผลที่ตามมาทำให้ม้าพันธุ์อาหรับกลายเป็นแบบอย่างหลักในวิวัฒนาการของม้าทั่วโลก ลักษณะเฉพาะ ม้าพันธุ์อาหรับมีลักษณะสวยงามที่สุด พร้อมกันนั้นก็มีความแน่นอนและที่เป็นสิ่งที่ไม่อาจจะลืมได้ในการปรากฏตัวของมัน ลักษณะพิเศษเฉพาะในตัวมันครอบคลุมถึงขนาดการได้สัดส่วน และโครงสร้างของกระดูก ลักษณะพันธุ์ที่ไม่เหมือนกันคือ มีซี่โครง 16 ซี่ ท่อนล่าง 6 และส่วนท้าย 18 พันธุ์อาหรับมีรูปแบบ 17- 5 - 16 มันมีลักษณะเด่นในความสูงของขาทั้ง 4 มันเป็นพันธุ์ที่มีความแข็งแกร่งในกิจกรรมต่างๆ การเคลื่อนไหว และถึงแม้ว่ามันจะคึกคะนองและ มีความกล้าหาญ มันสามารถควบคุมคำสั่งได้ การควบคุมพันธุ์ และความแข็งแรงของพันธุ์ จะเกี่ยวข้องกับความสัมพันธุ์ของลมหายใจและขา ทำให้ม้าพันธุ์อาหรับเป็นตัวเลือกในการพัฒนาการฝึกฝนที่ต้องการความเร็ว ในช่วงเวลาที่ยาวนานหรือความอดทนในการควบม้า ปัจจุบันนี้ม้าพันธุ์อาหรับมีการแพร่หลายไปอย่างมากที่สุด โดยในประเทศสหรัฐอเมริกามรการแพร่หลายม้าพันธุ์อาหรับอย่างมากในหลายๆเมืองได้มีการขยายพันธุ์ม้าพันธุ์อาหรับ จึงเป็นที่พึงพอใจและน่าสนใจ ในการประสานงานของสมาคมม้าพันธุ์อาหรับทั่วโลก




อาราเบี้ยน





อาราเบี้ยน






อาราเบี้ยน







เทอโรเบรด






เทอโรเบรด




เทอโรเบรด (ขออนุญาติเจ้าของม้าด้วยครับ)











เทอโรเบรด



อาราเบี้ยน


 
Design by Store su | Bloggerized by Laikeng - sutoday | Court